วันพฤหัสบดีที่ 18 เมษายน พ.ศ. 2556

ความสุขของคุณผูกไว้ที่ไหน ?

เมื่อตอนที่เราเป็นเด็กเรามีความสุขได้กับเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่เรามีโอกาสได้พบเจอ
ตอนเราเด็ก ๆ นั้น เราสามารถร้องไห้ออกมาได้โดยไม่ต้องอายใคร ไม่ต้องสนใจสายตาใคร
เรื่องที่ทำให้เราร้องไห้ได้ง่ายที่สุดคืออยากได้ของเล่น 
เสียใจที่สุดแค่โดนแม่ดุ
เจ็บปวดที่สุดแค่ตอนหกล้ม
ตอนนั้นเราไม่ต้องคิดอะไรให้มากมาย ไม่ต้องสวมใส่หน้ากากเอาไว้ตลอดเวลา คิดอะไรก็พูดออกมาตรง ๆ 
อยากได้ก็คืออยากได้ หิวก็บอกว่าหิว โกรธก็บอกว่าโกรธ เรียกได้ว่าเป็นโลกที่ 'บริสุทธิ์' อย่างแท้จริง 

431911958847195.jpg
122649989556521.jpg  

แต่พอโตมาเรากลับเลือกที่จะเอาความสุขของเราไปผูกไว้กับคนอื่น ไปผูกไว้กับวัตถุ ไปยึดติดกับความคาดหวัง 
แล้วพอทุกอย่างไม่เป็นดังใจเราก็เกิดความทุกข์ ความทุกข์ที่เกิดจากเราเอง ความคิดเราเอง หัวใจเราสร้างมันขึ้นมาเอง
เราเลือกที่จะใช้ชีวิตให้มันยากเองโดยการหยิบหน้ากากขึ้นมาสวมใส่กัน จนกลายเป็นมารยาของสังคม
และก็ปลูกฝังทำกันอย่างนั้นเรื่อยมา เด็กที่โตขึ้นมาก็ทำต่อตาม ๆ กัน
ทำให้สังคมเรากลายเป็นสังคมแห่งการใส่หน้ากาก ทำให้สังคมอย่ยากขึ้น

ต่อจากนี้รุ้งอยากจะขอเวลาสัก 1 นาที จากผู้อ่านให้ลองย้อนกลับมาถามตัวเองดูว่า "ความสุขของเราผูกไว้ที่ไหน" เพื่อเราจะได้แก้มันออกซะ เพื่อชีวิตจะได้พบกับความสุขมากขึ้น

ในขณะที่ผู้อ่านกำลังคิด รุ้งอยากจะเท้าความถึงที่ไปที่มาของบทความนี้สักหน่อย

เรื่องมันมีอยู่ว่า.....
16/04/56

รุ้งนัดจะเอางานไปให้คุณเพื่อนตัวดี งานที่ว่าก็คืองานเพื่อนที่รุ้งอาสาเอามาช่วยทำ -_-* แถมยังต้องเดินทางไกลจากบ้านไปที่จังหวัดนนท์เพื่อเอางานไปให้อีก (เหมือนเสียเปรียบยังไงไม่รู้แหะ) เวลานัดของเราคือเที่ยงแต่รุ้งดันไปเร็วกว่าเวลานัด 1 ชั่วโมงรุ้งไปถึง Big C ตอน 11 โมงตรงเป๊ะ เอาล่ะสิเพราะคำนวณเวลาไม่ดีเลยต้องรอ ระหว่างรอเจอร้านโดนัทเจ้าอร่อย แวะหน่อยล่ะกัน ซื้อเสร็จไปนั่งกินอยู่ตรง Food เลือกที่นั่งริมสุดเพื่อสะดวกในการหาตัวของคุณเพื่อน ข้าง ๆ เป็นที่เล่นของเด็ก ๆ ที่มีเครื่องเล่นหยอดเหรียญ สายตารุ้งไปสะดุดอยู่ที่เด็กผู้หญิงคนหนึ่ง เธอไม่ใช่เด็กหญิงที่น่ารักจนต้องมองแต่รอยยิ้มของเธอดูสดใส เธอดูสนุกกับเครื่องเล่นยอดเหรียญ รอยยิ้มนั้นทำให้รุ้งเผลอมองอยู่นานพลางเกิดคำถามในใจว่า "มันสนุกตรงไหนกันนะเครื่องเล่นแบบนั้น" แต่พอคิด ๆ ดูอีกทีเมื่อตอนที่เราเป็นเด็กเราเองก็คงเคยรู้สึกสนุกแบบนั้นเหมือนกัน แต่พอมองจากตอนนี้กับรู้สึกว่ามันก็แค่โยกไปโยกมาไม่เห็นน่าสนุกเอาซะเลย อาจเพราะมัวแต่ยึดติดอยู่ก็ได้ว่าเครื่องเล่นสนุก ๆ ต้องรุนแรง หวาดเสียวหรือเปล่านะ รุ้งนั่งมองน้องเขาอยู่พักใหญ่ ๆ  รอยยิ้มที่สดใสและดูบริสุทธิ์รอยยิ้มนั้นทำให้รุ้งเผลอยิ้มตามอย่างไม่รู้ตัว ^o^ และมันก็ทำให้รุ้งอยากจะกลับไปเป็นเด็กอีกครั้ง กลับไปสนุกกับเครื่องเล่นยอดเหรียญ กลับไปมีความสุขกับของเล่นชิ้นเล็ก ๆ กลับไปมีรอยยิ้มที่สดใส แ่ต่เพราะทำอย่างนั้นไม่ได้ รุ้งเลยได้แค่นำเรื่องนี้มาเขียน มาแบ่งปัน 

746203328948468.jpg

78728699125350.jpg

นี่ก็คือที่ไปที่มาของบล็อคนี้นั่นเอง แล้วตอนนี้ผู้อ่านได้คำตอบหรือยังค่ะว่า "ความสุขของเราผูกไว้ที่ไหน" 

สำหรับตัวรุ้ง รุ้งคิดว่าคงผูกไว้กับงานเขียนเนี่ยแหละ ถึงมันจะไม่ใช่สิ่งที่ผิดแต่มันก็ไม่ได้มีแต่ความสุข เพราะเมื่อเราเขียนเราก็ "คาดหวัง" ให้มีคนอ่าน เมื่อมันไม่เป็นไปตามที่เราหวัง ไม่มีผู้อ่าน หรือผู้อ่านน้อย เราก็เกิดความทุกข์ คิดไปต่าง ๆ นา ๆ เราเขียนไม่ดีหรอถึงไม่มีคนอ่าน ทำไมคนนั้นเขามีแฟนคลับเยอะ ทำไมคนนี้เขามีคนติดตามเยอะ พอคิดมาก ก็ทุกข์มาก โดยไม่รู้ตัวเลยว่าเรากำลังเอาความสุขไปผูกไว้กับสิ่งที่ไม่ยั่งยืน เรากำลังเอาความสุขไปผูกติดไว้กับความทุกข์ ความทุกข์ที่เราสร้างขึ้นมาเอง จนบางครั้งก็อยา่กจะกลับไปเป็นเด็กอีกครั้ง

กลับสู่โลกใบเล็ก ๆ ที่เต็มไปด้วยความบริสุทธิ์ ที่ไม่ต้องคาดหวังในชื่อเสียง เงินทอง ไม่ต้องยึดติดกับคำสรรเสริญ ไม่ต้องทะเยอทะยานหาสิ่งที่ไม่มี ไม่ต้องสวมหน้ากากหนา ๆ ไม่ต้องเก็บความรู้สึก ไม่ต้องฝืนทำในสิ่งที่ไม่ถูกใจ และอื่น ๆ ที่มันคงจะทำให้เรามีความสุขได้มากกว่านี้ แต่เมื่อเราไม่สามารถย้อนเวลากลับไปเป็นเด็กได้ แต่เราสามารถที่จะนำแนวคิดแบบเด็ก ๆ มาใช้ได้จริงมั้ย ?

เราลองเลิกยึดติด ลองสร้างความพึงพอใจกับสิ่งที่มี เลิกเปรียบเทียบ เลิกคาดหวัง ชีวิตเราอาจจะมีความสุขมากขึ้นก็ได้นะ เราอาจจะยิ้มได้มากขึ้นก็ได้นะ ^o^

แล้วผู้อ่านล่ะค่ะได้คำตอบแล้วหรือยังค่ะว่า "ความสุขผูกไว้ที่ใด" อย่าลืมไปแก้มันกับมาไว้ที่ตัวเองนะคะ

Date : 18042013****
By : Rainbow Gold (สุดปลายรุ้ง)

บันทึกส่งท้ายวันสงกรานต์ (15/04/56)

วันนี้วันสุดท้ายของวันสงกรานต์แล้วหรอเนี่ย เร็วจริง ๆ รู้สึกเหมือนบางเวลาก็ลืมไปเลยแหะว่าวันสงกรานต์ 
ปีนี้ค่อนข้างเงียบเหงามาก ๆ เรียกได้ว่างานกร่อย T^T

แต่ว่ารู้สึกว่าสงกรานต์นี้คุ้มแล้วได้กินก๋วยเตี๋ยวฝีมือคุณยาย อร่อยไม่เปลี่ยนแปลง อิอิ

577667021192610.jpg

เครื่องพร้อมแล้ว พร้อมจะม่ำ ๆ อิอิ 


410654539475217.jpg

คุณยายใจดี (ปกติเรียกแม่ใหญ่) ลงมือทำให้เองเลย 
แม่ใหญ๋ทำกับข้าวอร่อยมาก ๆ ^o^ กินมาจนโตป่านนี้แล้วก็ยังอยากจะกินต่อไปอีกเรื่อย ๆ


493770689703524.jpg

ก๋วยเตี๋ยวไก่ตุ๋น อาหย่อยสุด ๆ ^o^ 
พูดไปอยากกินอีกอ่า

v
v
v

ตอนเช้าม่ำของอร่อยไปแล้ว ตอนบ่าย ๆ ก็รื้อหิ้งทำหิ้ง สรงน้ำพระกันที่บ้าน กิจกรรมครอบครัวประจำปีทำแบบนี้ทุก ๆ ปี ทุก ๆ สงกรานต์ ^^

741061610169709.jpg

เตรียมพระพร้อมแล้ว ^^ 

352892994647846.jpg

บนหิ้งว่างเปล่าเเล้วอิอิ 
ทำความสะอาดกันก่อนดีกว่า

752891923999414.jpg

ระหว่างทำความสะอาดเกิดเหตุการณ์น่าตื่นเต้น เนื่องจาก กุมารองค์น้อยดันตกลงไปใต้ถุน -_-*
ทำเอาวุ่นวายกันพักใหญ่ต้องรื้อพื้นออก หากันให้วุ่น แต่สุดท้ายก็เจอ อิอิ

835590492468327.jpg

ทำความสะอาดพร้อมแล้ว เดี๋ยวไปดูบรรยากาศสรงน้ำกันนะคะ

405726363183931.jpg

363630414940417.jpg

ลิงน้อยสองตัวไหว้พระขอพร ^^

349873939063400.jpg

อุ้มหน่อยครับผม

477226551389322.jpg

ตัวเล็กหนักกว่าตัวโตอีกนะเนี่ย

226095518330112.jpg

คุณอาดรีมขอสรงน้ำบ้าง

293229651404545.jpg

คุณอาคนสวยของสรงน้ำบ้าง ไอตัวเล็กก็จะสรงอีก อ้อนไม่หยุด

576231684070081.jpg

ถึงคิวของพี่สาวคนงาม ^^ ดูหน้าตัวเล็กสิ ไม่ยอม ๆ ให้หนูมั่ง

539799718419090.jpg

อันนี้รุ้งเอง อิอิ ไม่ต้องเห็นหน้าหรอกเนอะ ไม่สวย ๆ 

888767651515082.jpg

ตอนนี้ประจำที่เดิมแล้วค่ะ หิ้งบ้านหนูสวยมั้ย

937321360921487.jpg

รักกันเบา ๆ ภาษาพ่อลูก ^^ คุณอากับคุณตา

538802888477221.jpg

ควันหลงสองพ่อลูก สนุกกันเลย สระส่วนตัว

890015526674688.jpg

ทุกคนใจร้ายปล่อยผมเล่นน้ำคนเดียว 

315956573234871.jpg

เขาทำอะไรกัน หนูไม่รู้เรื่องเลย

     ก็เป็นภาพบรรยากาศเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่รุ้งเก็บมาฝากเพื่อน ๆ ทอฝัน ^^ สงกรานต์กำลังเข้าช่วงโค้งสุดท้ายกำลังจะผ่านพ้นไป สงกรานต์นี้ได้ทำอะไรกันบ้างค่ะ สงกรานต์ที่บ้านเพื่อน ๆ เป็นอย่างไรกันบ้างอย่าลืมเอามาแชร์กันนะคะ

    วันนี้ตอนช่วงเย็น ๆ หนีเพื่อน ๆ ทอฝัน ไปเล่นน้ำที่ตรอกข้าวสารมาค่ะ เห็นบรรยากาศแล้วอนาจใจเบา ๆ เพราะภาพที่เห็นทำให้รู้สึกว่าชาวต่างชาติเล่นสงกรานต์อย่างรู้คุณค่ามากกว่าคนไทยอีกค่ะ ชาวต่างชาติเล่นกันสนุกสนาน ขณะที่มองที่คนไทยถือกระป๋องเบียร์กับแทนทุกคน วันรุ่นหญิงใส่เสื้อสีขาวเสื้อในสีเข้ม ๆ ยืนเต้นบนโต๊ะเพื่อขายเบียร์ ป่ะแป้งหนึ่งครั้งต้องซื้อเบียร์ 3 กระป๋อง เอิ่ม..จริง ๆ ยังมีอีกหลาย ๆ อย่างที่เห็นแล้วรู้สึกหดหู่ แต่พวกที่เล่นดี ๆ ก็มีนะคะแต่น้อย รุ้งล่ะกลัวว่าถ้าเป็นแบบนี้ต่อไปสงกรานต์อาจเป็นประเพณีที่ไม่สวยงามเหมือนก่อนอีกเลย T^T

โลกมีการเปลี่ยนแปลงแต่บางสิ่งที่ดีอยู่แล้วน่าจะพัฒนาหรือคงไว้ไม่ใช่เปลี่ยนแปลงตามกาลเวลา

Date : 150420132247
By : Rainbow Gold (สุดปลายรุ้ง)

ผิดหรอที่หนูชอบเขียน ?

ก็แค่ชอบเขียนผิดหรอ ก็แค่ชอบอ่านผิดมั้ย ก็ทำไปไม่ได้เดือดร้อนใคร แล้วทำไมทุกคนถึงมองหนู "ไร้สาระ"

"เขียนอะไรไร้สาระ"
"นักเขียนมีอะไรดี"
"อยากเป็นนักเขียนหรอเป็นไปไม่ได้หรอก"
"เขียนอยู่ได้ทั้งวันไม่เบื่อหรือไง"
"นักเขีียนเพ้อเจ้อ"

            และอื่น ๆ อีกบลา ๆ ๆ ที่คนรอบข้างชอบพูดกับรุ้งมาตั้งแต่ที่รุ้งพูดออกไปว่า "หนูอยากเป็นนักเขียน" รุ้งไม่เข้าใจว่าแค่อยากเป็นนักเขียนเนี่ยมันผิดขนาดนั้นเลยหรอไงกันนะ แต่รุ้งก็ไม่กล้าเถียงใครเขาหรอกนะ อาจเพราะตอนนั้นรุ้งเองยังเด็กเกินไป ทำให้รุ้งแพ้ต่อแรงกดดันที่มาจากคำพูดพวกนั้น มันเป็นแรงกดดันที่ทำให้รุ้งจมอยู่กับที่ มันเป็นแรงกดดันที่ทำให้รุ้งอายที่จะบอกใครว่าอยากเป็นนักเขียน มันเป็นแรงกดดันที่ทำให้รุ้งไม่กล้าเขียนหรือแม้แต่ไม่กล้าฝัน 

จนกระทั่ง.........

             ตอนนั้นรุ้งเรียนอยู่ชั้นม.3 เทอมสุดท้ายใกล้จะจบแล้วล่ะ มันเป็นช่วงที่รุ้งต้องเจอแรงกดดันอีกครั้ง เรื่องที่รุ้งจะเลือกเรียนสายอะไร โดยส่วนตัวรุ้งอยากเรียนต่อสายสามัญเพราะรุ้งมีความฝันที่อยากจะเป็นครู เป็นความฝันที่ฝันมาตั้งแต่เด็ก ๆ แล้วแม้กระทั่งตอนนี้รุ้งก็ยังอยากจะเป็นครูอยู่ แต่เพราะคำพูดของคนในครอบครัวที่พูดเสมอว่า 

"ถ้าเรียนสายสามัญจบม.6 แล้วต้องต่อมหาลัยซึ่งต้องใช่เงินเยอะนะ 
อีกอย่างถ้าเรียนสายสามัญจะไม่มีเวลาทำงานนะ ถ้าแม่ไม่มีเงินส่งจะทำยังไง 
เรียนจบแค่ม.6 ทำอะไรกินไม่ได้หรอกนะหางานยาก 
เรียนสายอาชีพได้เรียนไปทำงานไปจบปวช.3 
ถ้าแม่ไม่มีเงินส่งให้เรียนต่อก็ยังหางานทำได้นะ บลา ๆ ๆ"

            แม่บอกว่าแม่ไม่ได้บังคับแต่มันเหมือนการบังคับอยู่กลาย ๆ นะว่ามั้ย -_-* แต่ก็นั่นแหละมันทำให้รุ้งต้องคิดหนักว่าจะเอายังไงดี "ความฝัน" หรือ "อนาคต" จะเลือกอะไรดี ตอนนั้นรุ้งตัดสินใจเลือกมาเรียนสายอาชีพเพราะถ้าให้เลือกรุ้งก็ต้องเลือกอนาคตเพราะรุ้งคิดว่าถ้าอนาคตมั่นคงแล้วค่อยมาตามความฝันมันก็ยังไม่สาย เป็นอันว่าจากการตัดสินใจครั้งนั้นรุ้งจึงต้องพับความฝันที่อยากจะเป็นครูเก็บเอาไว้ก่อน รุ้งขอไม่ใช้คำว่าทิ้งนะเพราะรุ้งไม่ได้ทิ้งแค่หยุดก่อนเฉย ๆ 

            แต่พอพับความฝันนี้เก็บไว้ ไหนจะฝันที่อยากเป็นนักเขียนก็หยุดไปแล้ว ชีวิตตอนนั้นมันเคว้งคว้าง ว่างเปล่ามาก ๆ แม้กระัทั่งตอนที่ไปสมัครเรียนต้องเลือกสาขาวิชา รุ้งเลือกยากมากเพราะไม่มีเป้าหมายอะไรเลยหรือแม้กระทั่งตอนนี้ที่เรียนสาขาการตลาดอยู่ก็ตามรุ้งก็ยังไม่รู้เลยว่าอนาคตจะเอายังไงเรียน 3 ปี แล้วต่อ ปวส. ดีมั้ย หรือ จะต่อมหาวิทยาลัยดีกว่ากัน หรือจบเเล้วจะไปทำงานอะไรดี เป้าหมายไม่มีสักอย่าง พอชีวิตว่างเปล่ารุ้งก็คิดถึงงานเขียนขึ้นมา เหมือนอย่างที่เคยพูดไว้ในบล็อค "แค่อยากเขียน" ว่าคนเราถ้ารักที่จะเขียนแล้วมันหยุดไม่ได้หรอกมันก็เหมือนสารเสพติดชนิดนึงที่พอเรารักเราก็อยากจะเขียน และอาจเพราะว่าตอนนั้นรุ้งโตขึ้นมาหน่อย รุ้งเลยได้รู้ว่ารุ้งไม่ควรเสียเวลาอยู่กับคำพูดของคนอื่นเพราะมันไม่ทำให้รุ้งก้าวหน้าขึ้นเลย อีกอย่างสิ่งที่รุ้งทำก็ไม่ได้ทำให้ใครเดือดร้อนซะหน่อย รุ้งเลยได้กลับมาเริ่มเขียนอีกครั้ง

ตอนนี้รุ้งไม่สนแล้วว่าใครจะมองรุ้งยังไง 
ใครจะมองว่าไร้สาระ เป็นไปไม่ได้ รุ้งไม่แคร์เลยจริง ๆ 
รุ้งรู้แค่ว่ารุ้งได้ทำในสิ่งที่รุ้งรัก 
รุ้งได้แบ่งปันเรื่องราวต่าง ๆ ให้คนอื่นได้อ่าน
รุ้งมีความสุขที่รุ้งได้ทำ
และตราบใดที่สิ่งที่รุ้งทำมันไม่ได้ทำให้ใครเดือดร้อนรุ้งก็จะทำต่อไป
รุ้งอาจต้องฝึกเขียนไปอีก 10 ปี 20 ปี 30 ปี 40 ปี หรือตลอดไป
รุ้งอาจไม่มีโอกาสได้เป็นนักเขียนมืออาชีพ
รุ้งอาจไม่มีโอกาสได้ตีพิมพ์หนังสือของตัวเอง
แต่ถ้ายังมีพื้นที่เเม้จะเป็นพื้นที่เล็ก ๆ ให้รุ้งได้เขียนเรื่องราวต่าง ๆ
แค่นี้รุ้งก็ดีใจมาก ๆ แล้ว
สุดท้ายนี้รุ้งคงต้องขอบคุณพื้นที่ดี ๆ จาก "ทอฝัน" ที่ทำให้รุ้งมีพื้นที่ได้ทำตามความฝันตัวเองต่อไป ^^


DATE : 140420131438
By : Rainbow Gold (สุดปลายรุ้ง)

เรื่องเล่า (เหล้า) วันสงกรานต์ 13/04/56


♪..สงกรานต์ สงกรานต์ สนุกสนานประเพณีไทย..♪
♪..วันนี้..เป็นวันสงกรานต์..♪
วันนี้ไปทางไหนก็เจอแต่เพลงสงกรานต์เนอะ ก็มันวันสงกรานต์นี่เนอะ
สงกรานต์บ้านเพื่อน ๆ เป็นอย่างไรกันบ้างค่ะ 
สงกรานต์บ้านรุ้งเป็นแบบนี้

125559128355235.jpg

840987114934251.jpg



968014036538079.jpg

เด็ก ๆ เล่นน้ำกันสนุกเลย 
กางสระเล่นน้ำ ฉีดน้ำกันจนตัวเปื่อยเลย
ขึ้นแล้วอย่าลืมกินยานะจ๊ะ เดี๋ยวเป็นหวัด

37049580365419.jpg

มุมนี้เป็นมุมคอสุราค่ะ 
คุณลุง คุณป้า คุณน้า คุณอา คุณตา คุณยาย
กินกันลืมวัย ร้องเพลงกันสนุกเลย
เอ๊ะ ๆ สุรามีโทษอย่ากินเยอะไปนะครับ
ปล.ถึงจะดื่มแต่พวกเราก็ดื่มแล้วไม่ขับนะคะ เพราะดื่มเสร็จนอนค้างกันที่บ้านเลย ปลอดภัยชัวร์

604050106601790.jpg

มุมนี้ก็อร่อยกันสุด ๆ ค่ะ 
มุมนี้ปลอดสุรา กินกันเงียบ ๆ อิอิ
ง่ำ ๆ หมูกระทะอีกแว้วววว :"))

957894196501002.jpg

รูปนี้ไม่รู้จะเรียกว่าควันหลงหรือผลกระทบดี
ในบ้านใหญ่คงสนุกสนานมากไปหน่อย
สองแม่ลูกต้องมาแอบหลับอยู่ที่บ้านรุ้ง อิอิ


ทิ้งท้ายเบา ๆ กับน้องสงกรานต์ ^^

13/04/56 
กระผมเด็กชายสงกรานต์ครับผม ผมล่ะไม่เข้าใจจริง ๆ ว่าเมื่อพี่น้องวันเทศกาลแบบผมเวียนมาถึง
ทำไมพวกลุง ป้า น้า อา คุณตา คุณยาย และคนทั่ว ๆ ไปถึงได้ถามหาศัตรูคู่อริผมได้ตลอด
ศัตรูผมคือใครน่ะหรอครับ ก็คือ "สุรา" ไงครับผม 
สุรามันมีดีตรงไหนทำไมถึงชอบกันจัง 
พอมีสุรามาเกี่ยวข้องทีไรทำวันเทศกาลอย่างผมกร่อยทุกทีเลยครับ
เหมือนจะยังมีคนส่วนมากเข้าใจอะไรผิด ๆ อยู่นะครับ
จุดประสงค์ของประเพณีแบบพวกผมมีเพื่อความสนุนสนานเพลิดเพลิน 
กระชับความสัมพันธ์ในหมู่เครือญาติมิใช่ต้องการให้ดื่มน้ำเมานะครับ
น้ำเมาพวกนี้ดื่มเข้าไปมาก ๆ ไม่ดีต่อร่างกาย ทำให้ขาดสติ เกิดการทะเลาะวิวาทกันอีก
ประเพณีแบบพวกผมก็กร่อยหมดสิครับ
เอาเป็นว่าผมขอฝากไว้นะครับสำหรับใครที่ดื่มสุรา ผมเข้าใจว่ามันเป็นงานสังสรรค์ แต่ดื่มกันแต่พอดี อย่าให้เมาเละเทะขาดสตินะครับ ด้วยความปรารถนาดีจากกระผมน้องสงกรานต์ครับ
น้องสงกรานต์อวยพรให้ทุก ๆ ท่าน มีความสุขกับวันสงกรานต์นะครับ ^^

DATE  : 130420131615
By: Rainbow Gold (สุดปลายรุ้ง)

เมื่อฉันได้ Story of The week (ครั้งแรก)

หลังจากอยู่ในบ้านทอฝันนี้มากว่า 2 เดือน กับบทความทั้งหมด 28 เรื่อง                                  
วันนี้เรียกได้ว่าดีใจมาก ๆ เมื่อพบว่าตัวเองได้ Story of The week
ไม่คิดไม่ฝันว่าตัวเองจะได้เลยจริง ๆ ความรู้สึกทั้งดีใจและประหลาดใจมากทันทีที่เห็น

702766468282789.png

เมื่อได้ Story of The week อีกสิ่งนึงรุ้งได้ตามมาด้วยนอกจากเงินรางวัล 500 บาท 

คือ...รุ้งได้ข้อคิดที่ว่า "ยิ่งไขว้คว้ายิ่งไม่ได้ ยิ่งตามหายิ่งไม่เจอ"
มันเป็นอย่างนั้นจริง ๆ ค่ะ คล้าย ๆ กับบล็อคที่คุณ Pisit Chawasuntonpoj
ตอนนั้นที่มีโอกาสได้อ่านรุ้งยังรู้สึกค้างคาใจ เหมือนมันยังไม่ชัดเจน ประมาณว่ายังไม่เคยเจอกับตัวก็ไม่เข้าใจ ประมาณนั้นล่ะค่ะ

จนวันนี้พอได้มาจุด ๆ นี้ก็รู้ได้ทันทีว่าเออมันเป็นอย่างนั้นจริง ๆ ค่ะ 
บอกตรง ๆ ว่าตอนที่เข้ามาบ้านทอฝัน เป้าหมายแรกคือเขียนเพราะอยากเขียน
แต่พอเขียนไปเรื่อย ๆ เห็นคนอื่นเขาได้ Story of the week กันเยอะแยะ
ก็แบบรู้สึกยังไงอ่ะ ไม่ถึงกับอิจฉา แต่ก็รู้สึกว่าทำไมเราไม่ได้บ้างนะ

พอเริ่มมีความรู้สึก "อยากได้" 
ก็เริ่มเขียนงานด้วยความรู้สึกที่ "ยึดติด" 
ทำให้งานที่ออกมาไม่ดีเท่าที่ควร เพราะงานนั้น ๆ ขาดปัจจัยสำคัญของการนำเสนอไปคือ

1.ความรักในงานเขียน
2.หัวใจที่อยากเขียน
3.อารมณ์ร่วมในงานเขียน

เพราะมัวแต่ยึดติดจึงลืมสิ่งสำคัญ ลืมไปว่างานเขียนจะออกมาดีได้ต้องออกมาจากใจของผู้เขียน ที่เขียนด้วยความตั้งใจและรักที่จะเขียนมันออกมาจริง ๆ 
ไม่ใช่เขียนเพื่อสิ่งหลอกล่อต่าง ๆ ที่รุ้งของเรียกสิ่งเหล่านั้นว่า "ผลพลอยได้" 
เพราะมันคือผลพลอยได้จริง ๆ ค่ะ เพราะสิ่งที่เราได้มากกว่านั้นคือ

เราได้เเบ่งปันเรื่องราวดี ๆ ให้คนอื่นได้อ่าน 
เราได้นำเสนอเรื่องราวดี ๆ ที่มีประโยชน์
เราได้ทำในสิ่งที่เรารัก 
และคนอ่านก็จะได้รับความรู้จากเรา

ซึ่งรุ้งคิดว่าเพียงแค่ 4 อย่างที่ได้รับกลับมาทุกครั้งที่เราเผยแพร่งานเขียนออกไปก็มีค่ามากเเล้วส่วนสิ่งอื่น ๆ มันคือ "ผลพลอยได้"

ถ้าเราเขียนด้วยความรู้สึกที่เเค่เขียน ๆ ไป หรือยึดติดอยู่กับผลพลอยได้งานเขียนของเราจะออกมาดีได้อย่างไร

คิดดูขนาดคนเขียนที่เหมือนคนให้ 'กำเนิด' ยังไม่ซื่อสัตย์ต่องานเขียนตัวเองเลย
แล้วคนอ่านล่ะเขาจะเข้าถึงเรื่องราวที่เราเขียนได้อย่างไรจริงมั้ย ?

เหมือนกับเรื่อง "วันนี้คุณเปิดแล้วหรือยัง" เรื่องนี้รุ้งได้แรงบันดาลใจมาจากทอฝันเนี่ยแหละ จากบอร์ดที่รุ้งได้คุยกับคุณคมเทพและป้าโอ้ท คุยเรื่องเปิด ๆ 

26226889807731.png << บอร์ดนี้

ก็เลยเกิดไอเดีย พอมีไอเดียรุ้งก็รีบพิมพ์เลยแบบสด ๆ ร้อน ๆ เพราะเก็บไว้นานกลัวลืมและกลัวอารมณ์ร่วมจะหมดไปด้วย  รุ้งพิมพ์เรื่องนี้โดยที่ไม่ได้คิดถึงเรื่องอื่น ๆ เลย ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าข้อมูลที่รุ้งพิมพ์ไปยกตัวอย่างไปมันมาอยู่ในหัวได้อย่างไรมันรู้สึก "แค่อยากเขียน" รุ้งก็พิมพ์ไปตามความรู้สึก
ตอนนั้นดึกมาก ๆ แล้ว เกือบตี 1 ได้แล้วมั้ง เลยทำให้รุ้งยิ่งมีสมาธิมากขึ้น (เป็นคนชอบทำงานตอนกลางคืนอยู่แล้ว) 


เมื่ออ่านมาถึงตรงนี้ถ้าใครที่ยังไม่เคยได้รุ้งอยากให้กลับมาถามตัวเองว่า 
"ที่ไม่ได้เพราะฝีมือไม่ถึงหรือเพราะยังไม่ได้ใช้ฝีมือที่แท้จริงกันแน่"


DATE : 120420131908
By :  Rainbow Gold (สุดปลายรุ้ง)

วันนี้คุณ "เปิด" แล้วหรือยัง

"วันนี้คุณเปิดแล้วหรือยัง ?" 

คนหนึ่งคน มีหนึ่งใจ หนึ่งชีวิต
หนึ่งความคิด หนึ่งสมอง ร้อยความฝัน
หลากเรื่องราว หลากความรู้ ในหนึ่งวัน
หลายหมื่นพัน คนมันต่าง หลากมุมมอง

คนเรามีหนึ่งชีวิต แต่ชีวิตนึงไม่ได้มีเพียงหนึ่งวัน คนเราต้องเจอสิ่งใหม่ ๆ ทุกวัน เราถึงต้องคอยเตรียมตัวให้พร้อมอยู่เสมอ ตื่นเช้ามาเราอาบน้ำ ล้างหน้า แปรงฟัน ทานอาหารเช้า ไปทำงาน ไปโรงเรียน กิจวัตซ้ำ ๆ ซาก ๆ ที่เราทำกันทุกวัน แต่รู้มั้ยภายใต้ความซ้ำซากจำเจนั้นมันมีอะไรใหม่ ๆ เกิดขึ้นเสมอ 

ลองคิดดูว่าคุณกินอาหารซ้ำ ๆ กันทุกวันมั้ยก็ไม่ใช่ เวลาคุณขึ้นรถเมล์คุณจะได้ขึ้นคันเดิมทุก ๆ วันมั้ย คุณได้นั่งที่เดิมทุกวันหรือเปล่า คุณเจอเพื่อนร่วมทางคนเดิม ๆ ตลอดหรือเปล่า ถ้าคำตอบของคุณคือเปล่านั่นล่ะคือเรื่องราวใหม่ ๆ เล็ก ๆ น้อย ๆ ที่คุณเจอมันทุกวันจนกลายเป็นความซ้ำซากยังไงล่ะ  ตอนนี้คุณกำลังคล้อยตามสิ่งที่กล่าวมาข้างต้นแล้วหรือยัง ถ้าัยังมันยังเพราะอะไรเพราะบทความบทนี้มันไม่มีสาระพอที่คุณจะใส่ใจหรือเพราะคุณยังไม่ยอม "เปิด" กันแน่

อะไรบ้างที่ต้องเปิด แล้วต้องเปิดไปเพื่ออะไร

สิ่งแรกที่ต้องเปิดคือตา เปิดตาออกกว้าง ๆ ดูโลกให้ครบทุกมุม อย่ามองอะไรที่มันเป็นมุมเดิม ๆ อย่ามองแค่มุมที่คนทั่วไปมอง ถ้าคุณอยากเป็นคนที่โดดเด่นมันต้องเด่นที่่ความคิด พูดอย่างงี้อาจจะงงยกตัวอย่างง่าย ๆ ให้คุณลองมองภาพต่อไปนี้แล้วตอบตัวเองว่าคุณเห็นอะไร

hourglass3b.jpg
คนธรรมดามองเห็นนาฬิกาทราย
คนที่เปิดตามองเห็นเวลาแห่งการเริ่มต้นใหม่

แล้วรูปนี้ล่ะคุณเห็นอะไร ?
1293761099.jpg
คนธรรมดามองเห็นทางเดิน
คนที่เปิดตามองเห็นจุดเริ่มต้น

เห็นมั้ยแค่เปิดตาคุณก็มองอะไรได้มากขึ้นแล้ว แล้วจะมัวแต่ปิดตาตัวเองอยู่ทำไม รีบ ๆ เปิดมันออก มองโลกให้เยอะ ๆ คุณอาจจะเจอว่าความฝันอันยิ่งใหญ่มันอยู่ใกล้คุณแค่เอื้อมก็เป็นได้

เปิดตาแล้วก็อย่าลืมเปิดหูทั้งสองข้าง เปิดหูเพื่อฟังในสิ่งที่คนอื่นบอก เปิดหูเพื่อฟังคำตำหนิของคนอื่น เปิดหูเพื่อฟังเรื่องราวข่าวสาร แต่ไม่ใช่เปิดหูเพื่อฟังคำติฉินนินทา 

หูคนเรามีสองหูแต่จงอย่าใช้ทั้งสองหู ฟังหูไว้หู ฟังแล้วรู้จักคิดแต่อย่าให้ความคิดทำร้ายตัวเอง ใครเขานินทาก็ปล่อยเขาเขามีปาก เราห้ามไม่ให้ใครนินทาเราไม่ได้ เราก็ต้องห้ามความคิดของเราให้อย่าไปใส่ใจในคำนินทาพวกนั้น เปิดหูเพื่อฟังแต่จงเลือกเก็บเฉพาะสิ่งที่ควรจำ

เปิดตาเปิดหูแล้วก็ต้องเปิดใจ สิ่งที่สำคัญกว่าสิ่งไหนคือการเปิดใจ เมื่อใจเปิด ตาก็จะเปิด เมื่อใจเปิดหูก็จะเปิด เมื่อใจเปิดความคิดก็จะเปิด เพราะฉะนั้นจงเปิดใจรับกับทุกสิ่งที่เขามาในชีวิต เปิดใจฟังเรื่องราวทุกเรื่องราว เปิดใจเพื่อดูโลกนี้ในมุมใหม่ เปิดใจออกให้กว้าง ๆ เพื่อยอมรับในความเปลี่ยนแปลง เปิดใจเพื่อรับข้อผิดพลาด เปิดใจเพื่อรับในสิ่งใหม่ ๆ เปิดซะเปิดออกเปิดให้กว้างที่สุด เหมือนที่คุณกำลังเปิดใจเพื่ออ่านบทความนี้อยู่ยังไงล่ะ คุณกำลังเปิดใจเพื่อจะรับสิ่งใหม่ ๆ เปิดใจเพื่อรับฟังความคิดเห็นของเด็กผู้หญิงธรรมดา ๆ อย่างรุ้ง จะรู้ได้อย่างไรว่าคุณเปิดใจ ถามตัวเองง่ายว่าคุณมองบทความนี้อย่างไร คุณมองว่ามันมีประโยชน์เพราะได้มุมมองใหม่ หรือมองว่ามันไร้สาระ เพราะรู้อะไรมั้ยบนโลกนี้ไม่มีอะไรที่ไร้ประโยชน์ไร้สาระไปเสียหมดหรอกนะ อย่างน้อย ๆ ก็ต้องมีประโยชน์บ้างอาจไม่ใช่ประโยชน์สำคัญ หรืออาจไม่ใช่ประโยชน์สำหรับคนกลุ่มนึงแต่มันก็จะเป็นประโยชน์สำหรับคนอีกกลุ่มนึง 

คนที่เปิดใจแล้วเท่านั้นที่จะมองเห็นประโยชน์ของทุกสิ่งบนโลก ส่วนคนที่ไม่เปิดใจเขาจะมองเพียงว่ามันเป็นเพียงเรื่องราวเรื่องนึงที่ผ่านเข้ามาและผ่านออกไปอย่างไม่ได้เก็บเกี่ยวอะไรเก็บไว้เลย นี่ล่ะนะสิ่งสำคัญของการเปิด

เปิดหู เปิดตา เปิดใจ
แต่อย่าเปิดปาก 
เพราะปากไม่ใช่การรับรู้ แต่คือการบอกเล่า
ตราบใดที่เรายังไม่ได้เปิดใจจนสุด เปิดความคิดให้กว้าง
เราก็ไม่สมควรจะเปิดปากพูด เพราะสิ่งที่เราพูดมันคือสิ่งธรรมดาที่คนอื่นคิด
ปากจะมีค่าถ้าคุณจะเปิดปากเฉพาะตอนที่คุณรู้เรื่องนั้นจริง ๆ 
เพราะมันจะทำให้คุณโดดเด่นยังไงล่ะ 


เปิดมันซะตั้งแต่ตอนนี้ เพราะถ้ามัวแต่ช้าคุณจะตามคนอื่นไม่ทันนะ 

Date : 12042013013
By : Rainbow Gold (สุดปลายรุ้ง)

จดหมายถึงคนบนฟ้า


หลังจากวันนั้นนี่ก็ 44 วันแล้วนะที่บ้านของเราไม่มีสาวน้อยที่ชื่อ "พรีม" 

44 วันที่ผ่านมามันเงียบเหงานะรู้มั้ย เหมือนชีวิตมันขาดหาย ทั้งอาฟ้า อาดรีม แม่ใหญ่ ทุกคนยังคงคิดถึง "พรีม" อยู่เสมอนะลูก หลาย ๆ ครั้งที่ต้องร้องไห้เพราะความคิดถึงและความเสียดาย เสียดายเวลาตอนที่มีโอกาสตอนที่ได้อยู่ด้วยกันกลับไม่ทำมันให้ดี ตอนนั้นมีโอกาสกลับไม่เคยทำหน้าที่พี่ที่ดีเลยสักครั้ง พอวันนี้ที่ไม่มีพรีมแล้วกลับรู้สึกเสียใจ รู้สึกเสียดายที่ตอนนั้นมัวแต่า่คิดว่าพรุ่งนี้ค่อยทำ พรุ่งนี้ค่อยบอก เพราะคิดว่าเรายังต้องอยุ่ด้วยกันอีกนาน โดยไม่รู้เลยว่าพรีมจะจาากพี่ จากแม่ จากทุก ๆ คนไป ตอนอายุเพียง 9 ขวบ มันเกิดขึ้นรวดเร็วอย่างไม่เคยรู้เรื่องหน้า ไม่มีคำเตือน ไม่มีแม้คำสั่งเสียใด ๆ ไม่ได้เห็นแม้แต่ลมหายใจสุดท้าย ไม่ได้ทำอะไรหลาย ๆ อย่าง ที่อยากจะทำ ตอนที่มีโอกาสก็เอาไปจมอยู่กับอะไรก็ไม่รู้ แต่ที่พี่ดุพี่เตือนพี่อยากบอกว่าพี่หวังดีกับเรานะ พี่อยากให้เราเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่ดี แต่ตอนนี้คงไม่มีแล้วสินะน้องพรีมเด็กดื้อให้คอยดุว่า ไม่มีแล้วสินะสาวน้อยคนเก่ง ไม่มีแล้วจริง ๆ ไม่มีโอกาสจะได้เห็นรอยยิ้มน้อย ๆ นั้นอีกแล้ว ไม่มีโอกาสจะได้เห็นเธอโตเป็นสาว ไม่มีโอกาสเห็นเธอโตเป็นผู้ใหญ่ ไม่มีจริง ๆ เสียดายที่จากไปตั้งแต่เด็กแต่ความตายมันก็คือจุดจบของทุกชีวิตจะช้าจะเร็วคนเราก็ต้องตายทั้งนั้น ก็แค่ตอนนี้น้องมันหมดกรรมแล้ว น้องไปสู่ภพภูมิที่ดีแล้ว แต่พวกพี่และทุกคนไม่เคยลืมเรานะ ยังรักและคิดถึงเหมือนเดิมไม่เคยเปลี่ยน



รัก..คิดถึง..ด้วยอาลัย
หวังว่าจะส่งไปถึงนะคนบนฟ้า

ที่ยกเรื่องนี้มาพูดอีกครั้งไม่ใช่เพราะอยากจะอัพบล็อคเรียกร้องคึวามสนใจแต่อย่างใด แค่อยากจะให้ทุกคนได้อ่านและเตือนสติกันเอาไว้ว่าความตายคือสิ่งที่มาถึงแน่นอนแต่มันคือความไม่แน่นอน อย่าเพิ่งงงแค่จะสื่อให้เห็นว่าความตายคือจุดจบสุดท้ายของทุกสรรพสิ่งแต่เราไม่รู้เลยว่าเมื่อไหร่ที่จะมาถึงเรา ไม่รู้เลยจริง ๆ ว่าวันใดที่เราจะต้องจากคนที่เรารักหรือวันใดที่คนที่เรารักจะจากเราไป ไม่ว่าจากเป็นหรือจากตายทุก ๆ การจากลานำพาความเสียใจมาด้วยเสมอ วันนี้มีโอกาสทำดีจงทำซะ วันนี้มีโอกาสบอกว่ารักจงรีบบอก อย่ารอให้สายจะได้ไม่เสียดาย ชีวิตมันไม่แน่นอนใครจะไปรู้ว่าคืนนี้ที่เราหลับไปเราอาจจะไม่ได้ตื่นมาเจอหน้าคนที่เรารักอีกเลยก็ได้ อย่ามัวแต่คิดว่าเราอายุพึ่งเท่านี้ยังต้องอยู่อีกไกล อย่ามัวแต่คิดว่าเราจะอยู่ถึง 60 - 70 ปี อย่ามันแต่คิดอย่างนั้้นเพราะจริง ๆ แล้ว เวลาของเรามันอาจเหลือน้อยเต็มทีแล้วก็ได้

จงบอกรักคนที่เรารักทุก ๆ วันเท่าที่จะทำได้ 
จงทำดีทุก ๆ ครั้งที่มีโอกาส
จงทำตามฝันตั้งแต่วันนี้อย่ารอเวลา
จงทำตัวให้มีค่าก่อนที่จะสายเกินไป

อย่าให้เวลาของชีวิตเสียไปกับการเที่ยวเล่น
อย่าให้เวลาของชีวิตเสียไปกับความโกรธ
อย่าให้เวลาของชีวิตเสียไปกับความอคติ
อย่าให้เวลาของชีวิตเสียไปกับความว่างเปล่า
เพราะเมื่อถึงวันนึงเราที่แม้เราจะเสียดายเวลาที่ผ่านมาแค่ไหน
ไม่ว่าจะมีเงินทองมากองเท่าไหร่ 
เราก็ไม่อาจซื้อเวลากลับมาได้

640467855380848.jpg


แล้วคุณล่ะ  ?
วันนี้บอกรักคนที่คุณรักแล้วหรือยัง
วันนี้คุณบอกขอบคุณผู้มีพระคุณของคุณหรือยัง
วันนี้คุณบอกขอโทษคนที่คุณทำให้เสียใจแล้วหรือยัง
วันนี้คุณทำดีแล้วกี่ครั้ง
วันนี้และที่ผ่าน ๆ มา คุณตอบตัวเองได้มั้ยว่า
"คุณเคยทำอะไรเพื่อตัวเองบ้างแล้ว" 
แล้วทำอะไรเพื่อคนอื่นแล้วหรือยัง ?